หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์จากฝั่งญี่ปุ่นเรื่อง Hana’s Miso Soup มิโซะซุปของฮานะจัง ออกมาก็ทำให้ทุกคนที่ดูนั้นรู้สึกอิ่มเอิบใจและอยากเป็นกำลังใจให้ฮานะจังทำซุปให้ได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันทุกคนก็พร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแม่ผู้แข็งแกร่งคนนี้มีแรงกายและแรงใจในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายอีกด้วย
Hana’s Miso Soup มิโซะซุปของฮานะจัง ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง ว่าด้วยเรื่องราวของ “จิเอะ” รับบทโดย เรียวโกะ ฮิโรสึเอะ (Ryoko Hirosue) ที่ทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แต่คนรักอย่าง “ชิงโงะ” รับบทโดย เคนอิจิ ทาคิโตะ (Kenichi Takito) ก็ไม่ลังเลที่จะขอจิเอะแต่งงาน แม้จะรู้ว่าเธออยู่ได้อีกไม่นานก็ตาม ทั้งสองได้ให้กำเนิดลูกสาวสุดน่ารักอย่าง “ฮานะ” รับบทโดย เอมินะ อกามัตสึ (Emina Akamatsu) เธอได้เขียนบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ทิ้งไว้เพื่อให้ฮานะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กผู้หญิงที่เข้มแข็ง และหลังจากที่เธอรู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ได้อีก 1 ปี จึงเริ่มสอนให้ฮานะทำซุปมิโสะ เมนูโปรด และเป็นเมนูที่ฮานะพูดเสมอว่าวันหนึ่งจะทำซุปมิโสะให้เหมือนของแม่ และให้แม่ได้ชิมเป็นคนแรก
บทบาทของความเป็นแม่ผู้แข็งแกร่งของจิเอะนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมทีเดียว และ เรียวโกะ ฮิโรสึเอะ ผู้รับบทเป็น จิเอะ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการมารับบทและความรู้สึกที่ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้
คุณรู้จักเรื่อง Hana’s Miso Soup มาก่อนหรือเปล่า
ฉันรู้ค่ะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร แต่ไม่เคยดูฉบับละคร ไม่เคยอ่านหนังสือ ไม่เคยดูสารคดี สิ่งเดียวที่เคยผ่านตา และฉันก็จำได้ไม่ลืมก็คือภาพของหนูน้อยฮานะจังยืนอยู่ในห้องครัว ซึ่งด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ภาพ ๆ นั้นมันกระทบใจฉันอย่างรุนแรง พอฉันทราบว่าเขากำลังจะสร้างเป็นหนัง ฉันจึงขออ่านบท และฉันติดต่อไปยังทีมงานว่า ได้โปรดให้ฉันเล่นเรื่องนี้ด้วยเถอะ
มีความกดดันที่ต้องรับบทคนที่มีตัวตนจริงหรือเปล่า
ฉันคิดว่า นักแสดงทุกคนเวลาต้องมารับบทคนที่มีตัวตนจริง ก็ต้องกดดันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เพราะมนุษย์เราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน การจะเป็นใครสักคนให้สมจริง ย่อมเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปนั้นยิ่งยาก เพราะคนมีภาพจำไปแล้วว่าคน ๆ นั้นเป็นอย่างไร มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะต้องมีคนวิจารณ์เป็นธรรมดา ฉันก็แค่เล่นให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันทำได้
คุณชิงโงะ ยาสึตาเกะ สามีของตัวจริงของคุณจิเอะ ขอร้องหรือแนะนำอะไรคุณบ้างหรือเปล่าในการมาเล่นเป็นภรรยาของเขา
ทั้งคุณชิงโงะตัวจริงและหนูน้อยฮานะจังตัวจริง ก็ดีใจ ให้กำลังใจและรอชมฉบับภาพยนตร์กันมาก ๆ เลยค่ะ คุณชิงโงะแนะนำฉันสั้น ๆ ว่า ให้ยิ้มเยอะ ๆ เหมือนกับว่ากำลังมีความสุข เพราะว่าคุณจิเอะตัวจริงเธอเป็นอย่างนั้น ส่วนหนูน้อยฮานะจัง ฉันก็ถามเธอนะคะว่า “คุณแม่ในความคิดหนูเป็นยังไงคะ?” หนูน้อยฮานะจังตอบฉันว่า “คุณแม่เป็นคนดุ” (หัวเราะ) แต่แน่นอนค่ะ หนูน้อยฮานะจังบอกว่า ถึงแม่จะดุ แต่แม่ก็อยู่ในใจเธอตลอดเวลา เธอคิดถึงแม่ทุก ๆ วันเลยทีเดียว
ในหนังนั้น ฉากที่คุณจิเอะดุลูก เป็นฉากที่น้ำตาซึมมากเลยทีเดียว
ในความคิดของฉัน แม่ทุกคนก็ต้องดุอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) เพราะในญี่ปุ่น แม่จะอยู่กับลูกทั้งวัน จะมีความใกล้ชิดมากกว่าพ่อซึ่งต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกนั้น มันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าความสัมพันธ์สามีภรรยาเสียอีก ฉันจึงต้องใกล้ชิดกับเอมินะจัง (เอมินะ อากะมัตสึ) อย่างมาก เพื่อให้การแสดงอารมณ์ออกมาอย่างสมจริง
จากเสียงตอบรับ ดูเหมือนทุกคนจะชมว่า เอมินะจังเล่นเป็นฮานะจังได้ดีมาก
เอมินะจังเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และตอนถ่ายทำ เธออายุแค่ 4 ขวบเท่านั้นเอง แถมเวลาถ่ายทำเราก็มีแค่ 1 เดือน ตอนนั้นเป็นช่วงหน้าหนาว ทุกคนก็เป็นห่วงสุขภาพของเอมินะจังมาก ๆ กลัวเธอจะป่วยขึ้นมา และเนื้อเรื่องบางตอนก็ยังเครียดมาก ๆ อีกด้วย พวกเราจึงพยายามทำให้บรรยากาศในกองถ่ายนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานค่ะ เนื่องจากตัวจริงของฮานะจัง เธอเป็นเด็กร่าเริงและมองโลกในแง่ดีมาก ๆ เราอยากให้เอมินะจังเป็นแบบนั้นด้วย และความร่าเริงในกองถ่ายนี่เอง ส่งผลให้ตัวหนังที่ออกมา มีบรรยากาศที่รื่นรมย์ มากกว่าจะเป็นหนังเศร้า ๆ บีบน้ำตา
คุณเคนอิจิ ทากิโตะ (นักแสดงนำชายในเรื่อง) ก็เล่นเป็นคุณชิงโงะได้ดีมากด้วย
ฉันคิดว่าคุณเคนอิจิมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้หนังออกมาอย่างที่เห็น เขาเป็นคนตลกมากค่ะ เพราะเขาเป็นนักแสดงตลก และทำให้บรรยากาศในกองถ่ายเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ช่างดูไม่เหมือนกองถ่ายหนังดราม่าบีบน้ำตาเอาเสียเลย นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะว่าคุณชิงโงะตัวจริง ตอนที่รู้ว่าภรรยาป่วย ก็พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติมาก คุณเคนอิจิเล่นได้ดี จนบางฉากนั้นฉันยังอดร้องไห้ออกมาไม่ได้ เพราะการแสดงของเขา คุณเชื่อไหม ฉากไคลแมกซ์นั้น ทุกคนในกองถ่ายร้องไห้ออกมา แม้กระทั่งตอนที่เราซ้อมกันเฉยๆ
ฉากคอนเสิร์ตท้ายเรื่องนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องร้องไห้ออกมา เพราะเสียงคุณฮิโรสุเอะนั้นไพเราะมาก
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คงเป็นเพราะฉันไปเรียนร้องเพลงมาน่ะสิคะ อันที่จริงฉันก็พอร้องเพลงได้อยู่แล้ว แต่ฉันก็ไปฝึกการบาลานซ์เสียงอีกครั้ง เนื่องจากคุณจิเอะเธอร้องเพลงในขณะที่กำลังป่วย คุณก็ต้องทำเหมือนคุณกำลังป่วยจริง ๆ และคุณก็ต้องร้องเพลงให้เพราะจับใจด้วย ฉันจะต้องหาระดับเสียงที่เหมาะสมสำหรับฉากนั้น แต่จะชมฉันคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ต้องชมผู้กำกับ และคนแต่งเพลงด้วย ที่ช่วยให้ทุกอย่างออกมาดีขนาดนั้น
หนังให้ความสำคัญกับอาหารมากเลย มันได้เปลี่ยนความคิดของคุณเกี่ยวกับอาหารบ้างไหม
ไม่หรอกค่ะ เพราะตัวฉันก็ทราบดีว่า อาหารเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในวิถีการดำเนินชีวิต เพราะการทำอาหารมันเหมือน จังหวะ ท่วงทำนองของชีวิต การเปลี่ยนผันของฤดูกาล มันเกี่ยวข้องกันหมดเลย มันทำให้ฉันนึกถึงแม่ นึกถึงความเป็นแม่ ถึงแม้ทุกวันนี้ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเลิกเป็นแม่บ้านอย่างเดียวและออกมาทำงานนอกบ้านกันเยอะมาก ๆ แต่สิ่งที่ยังยึดโยงทุกคนไว้ด้วยกัน คือการกินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน
จำได้ไหมว่า อาหารจานแรกที่คุณทำตอนเด็ก ๆ คืออะไร?
ไม่ใช่เมนูอะไรที่ซับซ้อนหรอกค่ะ สิ่งที่ฉันทำคือช่วยแม่หั่นแตงกวา และฉันก็ชอบการหั่นแตงกวามากทีเดียว ฉันจำได้ดีว่า อาหารทุกมื้อของแม่จะต้องมีสลัดเป็นเครื่องเคียงเสมอ ๆ และการได้ดูแม่หั่นแตงกวาอย่างช่ำชองนั้น เป็นความบันเทิงของฉันเลย แม่หั่นได้ไว และสวยมาก ฉันจึงหัดหั่นแตงกวาให้เหมือนกับที่แม่เคยทำ เลียนแบบจังหวะการหั่นแตงกวาของแม่ ให้ได้ยินเสียงมีดกระทบเขียงดัง แต่กๆ หรือการหั่นแตงกวา 2 ซีกพร้อม ๆ กัน ฉันสนุกมากเลย เชื่อไหมคะ โตมาจนถึงตอนเรียนมัธยมปลาย งานครัวงานเดียวที่ฉันทำได้ คือการหั่นแตงกวานี่แหละ
คุณมีเมนูที่อยากจะบอกกับทุกคนไหม?
ฉันไม่มีเมนูโปรดเป็นพิเศษ ฉันทานได้ทั้งนั้นเลย ชอบหลายอย่างมาก ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะชอบเมนูตะวันตก จำพวกแฮมเบอร์เกอร์ แกงกะหรี่ และออมเลต แต่ฉันคิดว่าซุปมิโสะ ก็มีความสำคัญนะคะ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ซุปมิโสะช่วยให้ร่างกายของเราอบอุ่น มันเป็นอาหารที่ทำง่าย และกระบวนการของมันก็มีทุกอย่างครบ ทั้งการหั่น การต้ม ทุกอย่างเลย
ฉากการหั่นแตงกวาในหนัง ก็ดูสุดยอดมากเลย
การทำอาหารเป็นเรื่องของประสบการณ์ค่ะ จริง ๆ แล้วฉันชอบกินมากกว่าทำนะคะ แต่พอได้นึกว่า เราได้ทำอาหารให้คนอื่นกิน มันทำให้เรามีอารมณ์อยากทำอาหารขึ้นมาค่ะ นั่นคือประเด็นหลักของการทำอาหารเลยล่ะ ฉันว่าหลายคนอาจจะคิดว่า การทำอาหารทุกวัน ๆ นั้นเป็นกิจวัตรที่น่าเบื่อ แต่อยากให้ลองคิดเสียว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว อาหารก็จะพิเศษขึ้นมาทันที และนั่นคือสิ่งที่คนดูจะได้รับจากหนังเรื่องนี้ค่ะ
เอาใจช่วยฮานะจังทำซุปมิโสะให้สำเร็จกันเถอะ 17 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ (頑張ってね。)
The post น้ำตาซึม! เรียวโกะ ฮิโรสึเอะ เล่าความรู้สึกของความเป็นแม่ใน มิโซะซุปของฮานะจัง appeared first on MThai Movie.